Photo via SportsJOE.ie

ดาร์วิน นูเญซ กับฤดูกาลแรกในฐานะนักเตะลิเวอร์พูล ต้องเจอกับบททดสอบมากมาย ด้วยความที่ถูกคาดหวังเอาไว้สูง ทั้งจากการเรื่องของตัวเลขค่าตัวในการย้ายทีมที่สูงถึง 85 ล้านปอนด์ ทำสถิติเป็นนักเตะหงส์แดงที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร บวกกับผลงานเมื่อฤดูกาลที่แล้วกับอดีตต้นสังกัดอย่าง เบนฟิก้า ที่ทำเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงประตูไปได้ถึง 34 ลูก จาก 41 เกมที่ลงสนาม ไม่แปลกที่การมาของ นูเญซ ในถิ่นแอนฟิลด์จะถูกจับตามอง

แต่ดูเหมือน นูเญซ จะต้องเจอปัญหาและอุปสรรคไม่น้อยในการค้าแข้งในถิ่นแอนฟิดล์ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น ซึ่งแน่นอนว่าเป็นช่วงของการปรับตัว บวกกับฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ใช่แค่ นูเญซ แต่ผู้เล่นคนอื่นๆ ก็ทำผลงานน่าผิดหวัง ส่งผลให้หลายๆ เกม นูเญซ โชว์ฟอร์มได้ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะจังหวะการทำประตู ที่ยังขาดเรื่องความเฉียบคม

เราจะลองวิเคราะห์กันดูว่า มีบททดสอบอะไรบ้างที่ นูเญซ ต้องรับมือ เรียนรู้ และ ปรับตัว ในการย้ายมาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล

🔥ดูพรีเมียร์ลีก ร่วมทายผลลุ้นโชคหลักหมื่น 👉https://sytgn.com/2023premierleague

Photo via Sky Sports

บททดสอบแรก : ความเข้นข้นของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก

นูเญซ ออกสตาร์ทกับ ลิเวอร์พูล ได้น่าประทับใจ ตั้งแต่เกมแรกที่ลงสนามให้ทีม ในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ซึ่งเกมนี้ นูเญซ ทั้งมีชื่อเป็นคนทำประตูและยังเป็นคนทำให้ทีมได้ลูกจุดโทษ 

หลังจากนั้น นูเญซ ก็ยังโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่องในเกมพรีเมียร์ลีกนัดเปิดฤดูกาลที่ ลิเวอร์พูล เสมอ ฟูแล่ม 2-2 แม้เกมนี้ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัยจะลงสนามในฐานะตัวสำรองแต่ก็มีส่วนกับ 2 ประตูที่หงส์แดงทำได้ในเกมนี้ ยิง 1 จ่าย 1

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของ นูเญซ กับการเริ่มต้นในถิ่นแอนฟิลด์เกิดขึ้นในเกมนัดถัดมา ที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านรับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ เมื่อ นูเญซ โดนไปแดงไล่ออกจากสนาม ข้อหาคุมอารมณ์ไม่อยู่ใช้ศีรษะโขกใส่ โจอาคิม แอนเดอร์สัน กองหลังพาเลซ ส่งผลให้ นูเญซ ถูกลงโทษห้ามลงเล่นเกมลีก 3 นัด 

ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่ นูเญซ จะต้องเรียนรู้กับการเล่นในอังกฤษ เพราะจากนี้ไปเขาจะต้องเจอการเข้าปะทะหนักและรวมถึงการยั่วยุจากบรรดากองหลังทีมคู่แข่ง ซึ่งเป็นเรื่องปกติในฟุตบอลอังกฤษ

Photo via This Is Anfield

การต้องโดนแบนถึง 3 นัด ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นฤดูกาลใหม่กับต้นสังกัดใหม่ได้ไม่นาน รวมถึงการต้องแบกรับความกดดันมหาศาลจากความคาดหวังของแฟนบอลลิเวอร์พูล และเสียงวิจารณ์ คำสมประมาทที่พร้อมเกิดขึ้นทันทีจากแฟนบอลคู่แข่งหากวันไหนทำผิดพลาด เชื่อว่ามีผลต่อฟอร์มในสนามของ นูเญซ ไม่มากก็น้อย เพราะหลังจากพ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม นูเญซ ทำประตูไม่ได้เลย 5 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการที่ทีมลงแข่งขัน

นูเญซ ก็เคยให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports ยอมรับว่าการย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ ลิเวอร์พูล คือการ “เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” สำหรับเขา ตัวเขารู้ดีว่ามันจะเป็นอะไรที่ยาก และต้องใช้เวลา

“พรีเมียร์ลีก เป็นลีกที่แข็งแกร่งมาก มีการแข่งขันที่เข้มข้นมากกว่าที่โปรตุเกส ผมไม่คิดว่าจะแข็งแกร่งขนาดนี้ นิโคลาส โอตาเมนดี้ (อดีตกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเพื่อนร่วมทีมของ นูเญซ ที่ เบนฟิก้า) บอกกับผมแบบนั้น แต่ผมก็ยังไม่คาดคิดว่ามันจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ จนได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง”

“ผมรู้สึกประทับใจมาก ทุกทีมในลีกเป็นทีมที่ดี พวกเขาล้วนอยู่ในลีกนี้เพราะดีพอที่จะเล่น ฟุตบอลยากกว่าในโปรตุเกสและมีการแข่งขันที่สูงกว่า คุณแทบไม่มีเวลาที่จะได้ครอบครองบอลไว้กับตัว”

Photo via Notícias ao Minuto

บททดสอบที่สอง : กำแพงภาษา

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ นูเญซ ต้องเรียนรู้และปรับตัวในช่วงของการเริ่มต้นกับ ลิเวอร์พูล ก็คือเรื่องของภาษาในการสื่อสาร เนื่องจาก นูเญซ ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ภาษาที่เขาใช้สื่อสารกับคนรอบข้างคือ ภาษาสเปน แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ไม่พูดภาษาสเปน

แต่ยังโชคดีที่ในทีมลิเวอร์พูล มีนักเตะหลายคนที่สามารถสื่อสารได้ทั้ง ภาษาสเปนและภาษาอังกฤษ รวมถึง เป๊ป ลินเดอร์ ผู้ช่วยของ คล็อปป์ ที่พูดภาษาสเปนได้ ค่อยรับหน้าที่เป็นตัวกลางในการสื่อสารเรื่องแทคติกในสนามระหว่าง นูเญซ กับ คล็อปป์

“ผมคิดว่าหลังจาก 2-3 เดือนแรกของการปรับตัว สิ่งต่างๆ ก็เริ่มดีขึ้น ผมรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ผมรู้สึกมีความสุข เมื่อผมเข้ามา ผมตั้งตาคอยที่จะฝึกซ้อม โชคดีที่ในทีมมีคนที่สื่อสารภาษาสเปนได้” นูเญซ พูดถึงการปรับตัวเรื่องภาษาช่วงเริ่มต้นที่ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล 

“พวกเขาสนับสนุนผมเป็นอย่างดี และพวกเขายังคงสนับสนุนผมจนถึงตอนนี้ นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ เราเป็นทีม หากเราสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ นั่นเป็นสิ่งที่ดี”

Photo via This Is Anfield

“เพื่อนร่วมทีมของผมที่พูดภาษาสเปนมักจะค่อยแปลการพูดคุยต่างๆ ให้ผม เพราะผมยังไม่เข้าใจในหลายๆ อย่าง”

“แต่หลังจากนี้จะดีขึ้นแน่นอน เพราะผมกำลังเรียนภาษาอังกฤษ ผมหวังว่าในหนึ่งปีครึ่ง เป็นอย่างต่ำ ผมจะสามารถเข้าใจทุกอย่างได้”

โดย นูเญซ ได้เผยชื่อเพื่อนร่วมทีมลิเวอร์พูล ที่คอยทำหน้าที่เป็นเหมือน “ล่าม” คอยช่วยให้เขาเข้าใจสิ่งที่โค้ชและเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ กำลังสื่อสารกัน ซึ่งก็คือนักเตะสเปนอย่าง ติอาโก้ อัลคันทาร่า และ 2 ผู้เล่นบราซิลอย่าง ฟาบินโญ่ และ อลิซอน เบคเกอร์

“พวกเขาคอยให้คำแนะนำผมเสมอ และคอยช่วยเหลือในสิ่งที่ผมต้องการเสมอ”

Photo via Sky Sports

บททดสอบที่สาม : ความคาดหวังจาก เจอร์เก้น คล็อปป์

แน่นอนว่าการย้ายทีมาด้วยค่าตัวมหาศาลระดับสถิติสโมสรของ นูเญซ ย่อมมาพร้อมกับความคาดหวังอันหนักอึ้ง ไม่เฉพาะแค่กับแฟนบอลลิเวอร์พูล แต่ยังรวมถึง เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งเป็นคนเลือกและให้ความเชื่อมั่นในตัว นูเญซ ว่าคือนักเตะที่พร้อมจะพา ลิเวอร์พูล กลับมามีลุ้นคว้าแชมป์ 2 รายการใหญ่อย่าง พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ลีก อีกครั้ง

“เขา (คล็อปป์) พูดภาษาสเปนไม่ได้และผมไม่พูดภาษาอังกฤษ ดังนั้นเราจึงไม่เข้าใจกัน แต่เขายังคงให้ความมั่นใจกับผมเสมอ นับตั้งแต่มาอยู่ที่ ลิเวอร์พูล” นูเญซ พูดถึง คล็อปป์

“ผมคิดว่าเขาต้องการเห็นสิ่งที่เขาเห็นผมทำกับ เบนฟิก้า ยกตัวอย่างเช่นในเกมที่ผมเล่นกับ ลิเวอร์พูล (ในแชมเปียนส์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว) ตอนนั้นผมทำผลงานได้ดีมาก”

“ผมไม่คิดว่าตัวเองเล่นได้ไม่ดีในตอนนี้ แต่ผมต้องการพัฒนาอยู่เสมอ ผมพยายามพัฒนาตัวเองทุกวัน”

“คล็อปป์ รู้ว่าจุดแข็งของผมคือความเร็ว วิ่งเข้าไปในพื้นที่ว่าง นอกจากนี้ เขาบอกผมว่าผมต้องใจเย็นกว่านี้เวลาลงเล่น และผมต้องเคลื่อนที่ให้มากขึ้น เขาบอกผมว่าผมต้องการสิ่งนั้น และผมเป็นนักเตะที่มีคุณภาพมาก ดังนั้น นั่นคือสิ่งที่เขาต้องการจากผมไม่มากก็น้อย และแน่นอนว่าเขาอยากให้ผมทำประตูได้”

Photo via Liverpool Echo

“เขาบอกผมว่าผมต้องมีความนิ่งและใจเย็นในการจบสกอร์มากกว่านี้ เขาต้องการให้ผมใช้เวลานานกว่านี้ (ในการตัดสินใจยิงประตู) เพราะถ้าผมยิงประตูด้วยความโมโห หรือผมรีบเร่ง มันมักจะออกมาไม่ดี เขาขอให้ผมใช้เวลาเพิ่มอีก 2 วินาทีด้วยความใจเย็น แล้วผมจะทำประตูได้”

“มันเป็นเรื่องของการปรับตัว การปรับตัวเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่แค่ที่สโมสรเท่านั้น ไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอล แต่กับครอบครัวของคุณด้วย เพราะถ้าครอบครัวของคุณรู้สึก คุณก็จะรู้สึกดีตลอดไป ซึ่งตอนนี้ผมและครอบครัวรู้สึกดีมากๆ”

จนถึงตอนนี้ นูเญซ ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 14 ประตูจาก 31 เกมที่ลงสนาม รวมถึง 2 ประตูล่าสุดในเกมที่เปิดสนามแอนฟิลด์ไล่ถล่มชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แบบขาดลอย 7-0 ก็ถือว่าเป็นผลงานที่น่าประทับใจ สำหรับฤดูกาลแรกในการให้กับ ลิเวอร์พูล และในพรีเมียร์ลีก จากนี้ต้องดูว่า นูเญซ จะพา ลิเวอร์พูล กลับมาทำผลงานได้ดีต่อเนื่องตลอดทั้งฤดูกาลที่เหลือได้หรือไม่?

🔶ทายผลพรีเมียร์ลีกใน 15 วินาที รับ iPhone 14 กลับบ้าน! 👉https://sytgn.com/premier-league2023
🔶ติดตามSYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉https://sytgn.com/SYTlinefriends