
รามอน โรดริเกซ เบร์เดโฆ หรือที่แฟนบอลรู้จักในนามของ “มอนชี่” อยู่ในวงการลูกหนังมานานกว่า 30 ปีแล้ว และเชื่อไดว่า มีหลายคนที่รู้จักเขาเป็นอย่างดีในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาของบรรดาสโมสรชั้นนำในทั่วยุโรปอย่าง เซบีย่า ในศึก ลา ลีกา สเปน และ โรม่า ในกัลโช เซเรีย อา อิตาลี
ในอดีต มอนชี่ เป็นแค่ผู้รักษาประตูมือ 2 ของ เซบีย่า โดยเฝ้าเสาในถิ่นรามอน ซานเชซ ปิซฆวน นานถึง 11 ปี ลงเล่นไปรวมทุกรายการ 126 เกม ก่อนจะประกาศแขวนถุงมือเมื่อปี 1999 และผันตัวเองไปทำงานเบื้องหลังให้กับสโมสร
นับตั้งแต่เริ่มทำงานเบื้องหลัง รามอน โรดริเกซ เบร์เดโฆ ทำงานอย่างหนัก พร้อมกับศึกษาแนวทางการบริหารงานของสโมสรอื่นทั่วยุโรปอาทิ เอฟซี ปอร์โต้ และ โอลิมปิก ลียง ซึ่งเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ ขายผูhเล่นเพื่อทำกำไร และมองหานักเตะมากพรสวรรค์จากทั่วโลกเข้ามาสู่ทีม
แนวทางสำคัญที่ มอนชี่ ตั้งเอาไว้คือ วิธีการรับมือเมื่อสูญเสียผู้เล่นคนสำคัญออกไป และต้องทำให้แน่ใจว่าจะคว้านักเตะใหม่ที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันในราคาที่ต่ำกว่าเข้ามาสู่ทีม เพื่อเป้นการสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับสโมสร
ในช่วง 2 ปีแรกที่ มอนชี่ ทำงาน เซบีย่า ไม่ได้เงินเข้าสู่สโมสรเลยแม้แต่บาทเดียว แต่สิ่งสำคัญคือ พวกเขาสามารถเลื่อนชั้นจาก เซกุนด้า มาเล่นในศึก ลา ลีกา สเปน ได้สำเร็จภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โจอาคิน กาปาร์รอส
อย่างไรก็ตาม ในปี 2002 มอนชี่ ได้รับอนุมัติจากบอร์ดบริหาร เซบีย่า ให้ลงทุนครั้งแรกด้วยเงินจำนวน 500,000 ยูโร คว้าตัว ดานี อัลเวส แบ็กขวาชาวบราซิล มาจาก บาเฮีย และอีก 6 ปีต่อมา พวกเขาก็ขาย อัลเวส ให้กับ บาร์เซโลน่า ในราคาถึง 23 ล้านยูโร เลยทีเดียว
ปัจจุบัน เซบีย่า อยู่ในศึก ลา ลีกา มา 22 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว และพวกเขายังคงเดินไปในแนวทางที่ มอนชี่ วางเอาไว้ด้วยการมีความมั่นคงทางการเงิน และมีถ้วยรางวัลมาสู่สโมสร แม้จะมีช่วงที่ มอนชี่ โยกไปทำงานกับ โรม่า ในระหว่างปี 2017-2019 ก็ตาม
เซบีย่า ในยุคที่มี มอนชี่ เป็น ผอ.กีฬา นั้น คว้าแชมป์โคปา เดย์ เลย์ ในปี 2007 และ ยูโรป้า ลีก 6 สมัย ในปี 2006, 2007, 2014, 2015, 2016 และ 2020 ซึ่งถือเป็นสถิติการประสบความสำเร็จที่น่าเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก

พัฒนาตัวเองอยู่เสมอเพื่อให้ทำงานกับวงการฟุตบอลยุคใหม่
สำหรับทีมงานแมวมองในวงการฟุตบอลยุคนี้ มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และมีการใช้ข้อมูลที่ละเอยีดมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยผู้ที่ทำงานในด้านสถิติต่างๆเหล่านี้อาจไม่เคยมีพื้นฐานในวงการลูกหนังมาก่อนเลย แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
มอนชี่ กล่าวว่า “เรามีการเปรียบเทียบมุมมองสำหรับแมวมองของเรารวมกับข้อมูลต่างๆ และใช้ข้อมูลเหล่านั้น มาพิจารณาพร้อมกันอยู่เสมอเพื่อให้เราตัดสินใจได้ออกมาดีที่สุด เรามีข้อมูลขนาดใหญ่มากกว่าเดิมมากๆ เพราะทีมฝ่ายข้อมูลของเราได้รับการพัฒนามากขึ้น”
“แม้โครงการของเราจะยังไม่สมบูรณ์ 100% แต่มันก็ช่วยเราได้มากขึ้นในการวิเคราะห์ผู้เล่นที่นกำลังให้ความสนใจ ก่อนหน้านี้ข้อมูลของเราอาจไม่ถูกต้กองมากนัก แต่ปัจจุบันเรามีข้อมูลเล็กๆน้อยๆจากการรายงานเสริมเข้ามา”
“ตอนนี้เรามีการประมวลผลต่างๆได้ดีขึ้น มีข้อมูลมากขึ้น และเราเต็มใจที่จะพึ่งพามันมากขึ้น มันทำให้เรามีความมั่นใจที่จะใช้งานข้อมูลเหล่านั้น แต่ในขณะเดียวกันเราไม่สามารถมองข้ามความคิดเห็นส่วนตัวของแมวมองได้ และสิ่งที่เราต้องทำคือ การนำสิ่งเหล่านั้นมาวิเคราะห์ด้วยกันให้ได้ดีที่สุด”
สำหรับการทำงานของ มอนชี่ ประสบความสำเร็จอย่างมากที่ เซบีย่า ซึ่งทำให้มีสโมสรฟุตบอลหลายแห่งทั่วยุโรป จึงพยายามดำเนินงานตามรูปแบบของพวกเขา อาทิ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, เบนฟิก้า, สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ โมนาโก
มอนชี่ กล่าวทิ้งท้ายว่า “มีสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากมายที่มอบหมายให้ทีมงานเบื้องหลังอย่าง ผู้จัดการทั่วไป หรือผู้อำนวยการกีฬา เข้ามามีส่วนร่วม แต่ผมชอบตัวเลือกสุดท้ายมากกว่า เพราะมันมีความสมดุลที่สุด”
🔶15 วินาทีทายผลเกมลุ้นรับรางวัล 👉 https://sytgn.com/premier-league2023
🔶ติดตาม SYT LINE ไม่พลาดข่าวการแข่งขันกีฬา 👉 https://sytgn.com/SYTlinefriends